Assignment 2

1.จงอธิบายการทำงานของ Internet

______เครือข่ายอินเทอร์เน็ตสามารถทำให้คอมพิวเตอร์ต่างชนิดหรือต่างขนาดกัน ที่เชื่อมต่อภายในเครือข่ายสามารถสื่อสารกันได้นั้น จะต้องมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกันเป็นแบบเดียวกันหรือใช้กฎและข้อตกลงเดียวกัน ซึ่งก็คือ โพรโทคอล (protocol)ในการควบคุมรูปแบบข้อมูลและการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ โพโทคอลที่ใช้ในอินเทอร์เน็ต เรียกว่าทรานมิสชันคอนโทรไปรโทคอล/อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (Transmission Control Protocol/ Internet Protocol) หรือมีชื่อย่อว่า ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP)

003

______อินเทอร์เน็ตสามารถส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์จากหน่วยงานหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานปลายทางได้มากยิ่งหนึ่งเส้นทาง ซึ่งหากเส้นทางบางเส้นทางได้รับความเสียหายระบบเครือข่ายก็ยังคงสื่อสารกันได้ โดยเส้นทางที่เหลือที่เหลือเส้นทางอื่น ซึ่งการส่งข้อมูลดังกล่าวจะใช้หลักการของเครือข่ายแบบแพ็กเก็ตสวิตชิง (Packet-Switching Network)  กล่าวคือ ข้อมูลจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มๆ หรือแพ็กเก็ต และส่งไปยังปลายทางดโดยใช้เส้นทางต่างๆ กัน ขึ้นอยู่กับปลายทางที่กำหนด โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่ายจะต้องมีหมายเลขประจำเครื่องเพื่อให้คอมพิวเตอร์อื่นๆ อ้างอิงถึงได้ เช่นเดียวกับการโทรศัพท์จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งซึ่งจำเป็นต้องมีหมายเลขโทรศัพท์ของเครื่องต้นทางและเครื่องปลายทาง

______หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรียกว่าหมายเลขไอพี (IP Address) ซึ่งเป็นหมายเลขชุดหนึ่งมีขนาด 32 บิด หมายเลขชุดนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนละ 8 บิตเท่าๆ กัน ซึ่งแต่ละส่วนจะมีค่าได้ตั้งแต่ 0-255 เช่น 205.42.117.104 โดยหมายเลขไอพีของเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้องไมซ้ำกัน และเนื่องจากหมายเลขไอพีจดจำได้ยาก ถ้ามีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากอยู่ในเครือข่าย ก็จะทำให้สับสนได้ง่าย จึงได้เกิดการตั้งชื่อที่เป็นตัวอักษรขึ้นมาแทนหมายเลขไอพี เพื่อช่วยในการจดจำเรียกว่า ดีเอ็นเอส (DNS: Domain Name Server) ซึ่งประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ชื่อ และโดเมน

        โดเมนมีมาตรฐานใช้ร่วมกันสำหรับหน่วยงานและประเทศต่างๆ  ดังนี้

1. โดเมนระดับบนสุด  จะบอกถึงประเภทขององค์กร หรือชื่อประเทศที่เครือข่ายตั้งอยู่

003-1

003-2

ทั้งนี้ในกรณีที่เป็นโดเมนระดับบนสุดที่บ่งบอกประเทศที่เครือข่ายตั้งอยู่นั้น จะต้องมีโดเมนระดับย่อย เพื่อระบุประเภทขององค์กร

2. โดเมนระดับย่อย ใช้ในประเทศ ซึ่งจะบอกถึงประเภทองค์กร

003-3

เส้นคั่นสีเขียว1

2.เมื่อนักศึกษาต้องการใช้ internet กับอุปกรณ์สื่อสารหรือคอมพิวเตอร์มีวิธีการอย่างไร

เทคโนโลยีแบบใช้สาย

______เทคโนโลยีแบบใช้สายต่อไปนี้เรียงลำดับตามความเร็วจากช้าไปเร็วอย่างหยาบๆ

220px-UTP_cable

รูปแสดงสาย UTP

______สายคู่บิด เป็นสื่อที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดสำหรับการสื่อสารโทรคมนาคมทั้งหมด สายคู่บิดประกอบด้วยกลุ่มของสายทองแดงหุ้มฉนวนที่มีการบิดเป็นคู่ๆ สายโทรศัพท์ธรรมดาที่ใช้ภายในบ้านทั่วไปประกอบด้วยสายทองแดงหุ้มฉนวนเพียงสองสายบิดเป็นคู่ สายเคเบิลเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (แบบใช้สายอีเธอร์เน็ตตามที่กำหนดโดยมาตรฐาน IEEE 802.3) จะเป็นสายคู่บิดจำนวน 4 คู่สายทองแดงที่สามารถใช้สำหรับการส่งทั้งเสียงและข้อมูล การใช้สายไฟสองเส้นบิดเป็นเกลียวจะช่วยลด crosstalk และการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าระหว่างสายภายในเคเบิลชุดเดียวกัน ความเร็วในการส่งอยู่ในช่วง 2 ล้านบิตต่อวินาทีถึง 10 พันล้านบิตต่อวินาที สายคู่บิดมาในสองรูปแบบคือคู่บิดไม่มีต้วนำป้องกัน(การรบกวนจากการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าภายนอก) (unshielded twisted pair หรือ UTP) และคู่บิดมีตัวนำป้องกัน (shielded twisted pair หรือ STP) แต่ละรูปแบบออกแบบมาหลายอัตราความเร็วในการใช้งานในสถานการณ์ต่างกัน

220px-STP-cable.svg

รูปแสดง STP จะเห็น sheath ที่เป็นตัวนำป้องกันอยู่รอบนอก

______สายโคแอคเชียล ถูกใช้อย่างแพร่หลายสำหรับระบบเคเบิลทีวี, ในอาคารสำนักงานและสถานที่ทำงานอื่นๆ ในเครือข่ายท้องถิ่น สายโคแอคประกอบด้วยลวดทองแดงหรืออะลูมิเนียมเส้นเดี่ยวที่ล้อมรอบด้วยชั้นฉนวน (โดยปกติจะเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นกับไดอิเล็กทริกคงที่สูง) และล้อมรอบทั้งหมดด้วยตัวนำอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าจากภายนอก ฉนวนไดอิเล็กทริกจะช่วยลดสัญญาณรบกวนและความผิดเพี้ยน ความเร็วในการส่งข้อมูลอยู่ในช่วง 200 ล้านบิตต่อวินาทีจนถึงมากกว่า 500 ล้านบิตต่อวินาที

220px-Coaxial_cable_cutaway_PTFE.svg

รูปแสดงสายโคแอคเชียล

ITU-T G.hn เป็นเทคโนโลยีที่ใช้สายไฟที่มีอยู่ในบ้าน (สายโคแอค, สายโทรศัพท์และสายไฟฟ้า) เพื่อสร้างเครือข่ายท้องถิ่นความเร็วสูง (ถึง 1 Gb/s)

______ใยแก้วนำแสง เป็นแก้วไฟเบอร์ จะใช้พัลส์ของแสงในการส่งข้อมูล ข้อดีบางประการของเส้นใยแสงที่เหนือกว่าสายโลหะก็คือมีการสูญเสียในการส่งน้อยและมีอิสรภาพจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและมีความเร็วในการส่งรวดเร็วมากถึงล้านล้านบิตต่อวินาที เราสามารถใช้ความยาวคลื่นที่แตกต่างของแสงที่จะเพิ่มจำนวนของข้อความที่ถูกส่งผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสงพร้อมกันในเส้นเดียวกัน

เทคโนโลยีไร้สาย

______ไมโครเวฟบนผิวโลก – การสื่อสารไมโครเวฟบนผิวโลกจะใช้เครื่องส่งและเครื่องรับสัญญาณจากสถานีบนผิวโลกที่มีลักษณะคล้ายจานดาวเทียม ไมโครเวฟภาคพื้นดินอยู่ในช่วงกิกะเฮิรตซ์ที่ต่ำ ซึ่งจำกัดการสื่อสารทั้งหมดด้วยเส้นสายตาเท่านั้น สถานีทวนสัญญาณมีระยะห่างประมาณ 48 กิโลเมตร (30 ไมล์)

______ดาวเทียมสื่อสาร – การสื่อสารดาวเทียมผ่านทางคลื่นวิทยุไมโครเวฟที่ไม่ได้เบี่ยงเบนโดยชั้นบรรยากาศของโลก ดาวเทียมจะถูกส่งไปประจำการในอวกาศ ที่มักจะอยู่ในวงโคจร geosynchronous ที่ 35,400 กิโลเมตร (22,000 ไมล์) เหนือเส้นศูนย์สูตร ระบบการโคจรของโลกนี้มีความสามารถในการรับและถ่ายทอดสัญญาณเสียง, ข้อมูลและทีวี

______ระบบเซลลูลาร์และ PCS ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารวิทยุหลายเทคโนโลยี ระบบแบ่งภูมิภาคที่ครอบคลุมออกเป็นพื้นที่ทางภูมิศาสตร์หลายพื้นที่ แต่ละพื้นที่มีเครื่องส่งหรืออุปกรณ์เสาอากาศถ่ายทอดสัญญาณวิทยุพลังงานต่ำเพื่อถ่ายทอดสัญญาณเรียกจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่งข้างหน้า

______เทคโนโลยีวิทยุและการแพร่กระจายสเปกตรัม – เครือข่ายท้องถิ่นไร้สายจะใช้เทคโนโลยีวิทยุความถี่สูงคล้ายกับโทรศัพท์มือถือดิจิทัลและเทคโนโลยีวิทยุความถี่ต่ำ. LAN ไร้สายใช้เทคโนโลยีการแพร่กระจายคลื่นความถี่เพื่อการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์หลายชนิดในพื้นที่จำกัด. IEEE 802.11 กำหนดคุณสมบัติทั่วไปของเทคโนโลยีคลื่นวิทยุไร้สายมาตรฐานเปิดที่รู้จักกันคือ Wifi

______การสื่อสารอินฟราเรด สามารถส่งสัญญาณระยะทางสั้นๆมักไม่เกิน 10 เมตร ในหลายกรณีส่วนใหญ่ การส่งแสงจะใช้แบบเส้นสายตา ซึ่งจำกัดตำแหน่งการติดตั้งของอุปกรณ์การสื่อสาร

______เครือข่ายทั่วโลก (global area network หรือ GAN) เป็นเครือข่ายที่ใช้สำหรับการสนับสนุนการใช้งานมือถือข้ามหลายๆ LAN ไร้สาย หรือในพื้นที่ที่ดาวเทียมครอบคลุมถึง ฯลฯ ความท้าทายที่สำคัญในการสื่อสารเคลื่อนที่คือการส่งมอบการสื่อสารของผู้ใช้จากพื้นที่หนึ่งไปอีกพื้นที่หนึ่ง ใน IEEE 802 การส่งมอบนี้เกี่ยวข้องกับความต่อเนื่องของ LAN ไร้สายบนผิวโลก .

เทคโนโลยีที่แปลกใหม่

______มีความพยายามต่างๆที่ขนส่งข้อมูลผ่านสื่อที่แปลกใหม่ ได้แก่:

  1. IP over Avian Carriers เป็นอารมณ์ขันของ April’s fool เป็น RFC 1149 มันถูกนำมาใช้ในชีวิตจริงในปี 2001.
  2. ขยายอินเทอร์เน็ตเพื่อมิติอวกาศผ่านทางคลื่นวิทยุ.

______ทั้งสองกรณีมีการหน่วงเวลาสูงอันเนื่องมาจากสัญญาณต้องเดินทางไปกลับ ซึ่งจะทำให้การสื่อสารสองทางล่าช้ามาก แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการส่งข้อมูลจำนวนมาก

เส้นคั่นสีเขียว1

3.Home Network หมายถึงอะไร และมีวิธีการทำอย่างไร

______Home Network หมายถึง ระบบเครือข่ายเล็กๆภายในบ้าน ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่า 1 เครื่อง เพื่อให้ในงานอินเตอร์เน็ตได้หลายๆเครื่องพร้อมกัน ผ่านทาง Modemตัวเดียว สายโทรศัพท์สายเดียว และ ISP (Internet Service Provider) ร่วมกัน สำหรับธุรกิจภายในบ้าน หรือธุรกิจขนาดย่อมนั้นก็ยังสามารถใช้งานด้านอื่นๆอีก อาทิเช่น การใช้พรินเตอร์ร่วมกัน , การใช้ฮาร์ดดิสร่วมกัน

            วิธีการทำ 

1. วางแผนเครือข่ายของคุณ

พิจารณาว่าคุณต้องการเครือข่ายชนิดใด เราขอแนะนำให้ใช้เครือข่ายไร้สาย เพื่อที่คุณจะได้มีตัวเลือกในการใช้การเชื่อมต่อทั้งแบบผ่านสายและไร้สาย การเชื่อมต่อแบบไร้สายจะให้ความคล่องตัวมากที่สุด เนื่องจากใช้คลื่นวิทยุเพื่อส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์

2. ใช้ฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นและ ISP (ISP มีหรือไม่มีก็ได้)

อย่างน้อยที่สุด คุณต้องใช้เราเตอร์และอะแดปเตอร์เครือข่ายสำหรับคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง (แล็ปท็อปส่วนใหญ่จะมีอะแดปเตอร์เครือข่ายไร้สายติดตั้งไว้อยู่แล้ว) ถ้าคุณต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คุณจะต้องมีบัญชีผู้ใช้ที่สร้างไว้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)

3. ติดตั้งเราเตอร์

ถ้าเราเตอร์ของคุณมีโลโก้ Windows 7 หรือคำว่า “เข้ากันได้กับ Windows 7” คุณสามารถติดตั้งเราเตอร์นั้นได้โดยอัตโนมัติโดยใช้ Windows Connect Now (WCN) รุ่นล่าสุดใน Windows 7 หรือ Windows Vista Service Pack 2 หรือมิฉะนั้น เราเตอร์ส่วนใหญ่มาพร้อมกับซีดีการติดตั้งที่จะช่วยคุณในการติดตั้งเราเตอร์ ทำตามคำแนะนำที่ให้มาพร้อมกับเราเตอร์ของคุณ

4. เชื่อมต่อเราเตอร์กับอินเทอร์เน็ต (ไม่จำเป็น)

คุณไม่จำเป็นต้องทำขั้นตอนนี้ แต่เราขอแนะนำอย่างยิ่ง คนส่วนใหญ่ทราบดีว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้นมีประโยชน์อย่างยิ่ง เมื่อต้องการเชื่อมต่อเราเตอร์กับอินเทอร์เน็ต ให้ทำตามคำแนะนำจาก ISP ของคุณ

5. เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์กับเครือข่าย

ทำตามคำแนะนำที่ให้มาพร้อมกับอุปกรณ์

6. สร้างโฮมกรุ๊ปหรือเปิดการใช้แฟ้มและเครื่องพิมพ์ร่วมกัน

ถ้าคุณติดตั้งเครือข่ายในบ้าน การสร้างโฮมกรุ๊ปเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการใช้แฟ้มและเครื่องพิมพ์ร่วมกัน

เส้นคั่นสีเขียว1

4. 3G และ ADSL มีความแตกต่างกันอย่างไร

______ADSL ย่อมาจาก Asymmetric Digital Subscribers Line คือเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงแบบใหม่ ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อ Internet และเครือข่ายระยะไกลได้ด้วยความเร็วสูงโดยใช้คู่สายโทรศัพท์ธรรมดา ถือเป็นเทคโนโลยีของModemแบบใหม่ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของสายโทรศัพท์ที่ทำจากลวดทองแดงธรรมดา ให้เป็นเส้นสัญญาณนำส่งข้อมูลความเร็วสูง โดย ADSL สามารถจัดส่งข้อมูลจากผู้ให้บริการด้วยความเร็วมากกว่า 6 Mbps ไปยังผู้รับบริการ หมายความว่าผู้ใช้บริการสามารถ Download ข้อมูลด้วยความเร็วสูงมากกว่า 6 Mbps ขึ้นไปจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือผู้ให้บริการข้อมูลทั่วไป (ส่วนจะได้ความเร็ว กว่า 6 Mbps หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ รวมทั้งระยะทางการเชื่อมต่ออีกด้วย)

______เทคโนโลยี ADSLมีความเร็วในการรับข้อมูล (Downstream)และความเร็วในการส่งข้อมูล (Upstream)ไม่เท่ากัน โดยมีความเร็วในการรับข้อมูล สูงกว่าความเร็วในการส่งข้อมูลเสมอ เทคโนโลยี ADSL มีความเร็วในการรับข้อมูลสูงสุด 8 เม็กกะบิตต่อวินาที (Mbps) และความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 640 กิโลบิตต่อวินาที (Kbps.) ความเร็วอาจเริ่มตั้งแต่ 128/64, 256/128, 512/256 เป็นต้น โดยความเร็วแรกเป็นความเร็วขารับข้อมูล

______3G หรือ HSDPA /E-VDO/ UMTS / HSPA / ระบบอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือ  ความเร็วของอินเตอร์เน็ตที่ได้นั้นมีความสูงมาก อยู่ในระบบเดียวกับ อินเตอร์ Hi -speed (ADSL)จะอยู่ประมาณ 512Kbps.- 7.2 Mbps. เลยทีเดียว เป็นการรอรับ การใช้งานอินเตอร์ในปัจจุบันที่มีประมาณข้อมูลมากๆ คุณสามารถดูทีวีความระเอียดสูงผ่านทางอินเตอร์เน็ต ได้เลยทีเดียว  เล่นเกมส์ออนไลนื โหลดไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ การใช้งาน VDO-CALL ผ่านระบบ อินเตอร์เน็ต 3G ได้อย่างสบายๆ ทั่วโลก ใช้ระบบ 3G เป็นมาตราฐานในการใช้งานอินเตอร์ไร้สาย กันเป็นส่วนใหญ่แล้ว

เส้นคั่นสีเขียว1

5.IPv6, Cloud Computing Software Development, และ WebRTC มีลักษณะอย่างไรมีผลกระทบกับธุรกิจและกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันอย่างไร

______IPv6 คือมาตรฐานการสื่อสารระหว่างประเทศ ใช้สำหรับรับส่งชุดข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ IPv6 header มี 128 บิต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดข้อมูล และยังรวมถึงแอดเดรสต้นทางและปลายทาง และบิตควบคุมอื่นๆ

______แอดเดรส IPv6 แบบ 128 บิต จะแทนด้วยกลุ่มตัวเลขฐานสิบหก จำนวน 8 กลุ่ม ซึ่งคั่นด้วยเครื่องหมาย : ตัวอย่างเช่น

2001:0db8:0000:0000:0000:0000:0000:0001

______เนื่องจากความยาวของฟอร์แมตนี้ แอดเดรส IPv6 จึงสามารถย่อได้โดยตัดศูนย์ที่นำในกลุ่ม 16 บิต ตัวอย่างเช่น

2001:db8:0:0:0:0:0:1

          ______จากนั้น ศูนย์กลุ่มที่อยู่เรียงกัน จะถูกแทนที่ด้วยเครื่องหมาย :: ตัวอย่างเช่น

2001:db8::1

การกำหนดแอดเดรสอัตโนมัติของ IPv6

______คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอื่นๆ อาจถูกกำหนดแอดเดรส IPv6 แบบไดนามิคโดยใช้วิธีการกำหนดค่าอัตโนมัติ แอดเดรส Media Access Control (MAC) แบบ 48 บิต ที่ต้องเชื่อมต่อ Ethernet ของอุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถเก็บไว้ใน EUI-64

______ในการใช้ฟอร์แมต EUI-64 ตัวกำหนดอินเทอร์เฟส IPv6 แบบ 64 บิต อาจสร้างขึ้นได้ทั่วโลก นอกจากนี้ ตัวกำหนดอินเทอร์เฟสนี้ยังสามารถใช้การกำหนดเองได้ ตามแผนการกำหนดหมายเลขของโฮสต์เอง ตัวอย่างเช่น

แอดเดรส MAC สำหรับ PC คือ 00:26:08:e7:b2:f6

แอดเดรส IPv6 ที่กำหนดให้ PC โดยใช้ฟอร์แมต EUI-64 คือ 2001:db8::0226:08ff:fee7:b2f6

______บิตที่สำคัญน้อยที่สุดเป็นอันดับสองของไบต์ที่สำคัญที่สุดของแอดเดรส หรือที่เรียกว่า Universal/Local จะเป็นตัวกำหนดการจัดการแอดเดรส IPv6 แอดเดรสจะถูกจัดการอย่างสากลหากบิตเป็น 0 และจะจัดการเฉพาะจุด หากบิตเป็น 1 ตัวอย่างเช่น

ตัวเลขฐานสิบหก 0 = 00000000 (ตัวเลขฐานสอง)

ตัวเลขฐานสิบหก 2 = 00000010 (ตัวเลขฐานสอง)

ข้อดีและข้อเสียของ IPv6

______IPv6 ไม่ได้เป็นเพียงการขยายพื้นที่ไอพีแอดเดรส แต่ยังเป็นอินเทอร์เน็ตโพรโทคอลใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงและขยายจาก IPv4 ข้อดีที่สำคัญที่สุดของรูปแบบอินเทอร์เน็ตแอดเดรสใหม่นี้คือมีพื้นที่แอดเดรสจำนวนมาก จึงทำให้มีไอพีแอดเดรสจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน

______Cloud Computing (การประมวลผลแบบก้อนเมฆ )คือ การพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่มีการประมวลผลอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งคำว่าก้อนเมฆนั้นเป็นอุปมาของระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการที่มีการวาดรูประบบอินเทอร์เน็ตด้วยรูปก้อนเมฆเป็นประจำในการอธิบายการเชื่อมต่อของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นการซ่อนโครงสร้างซับซ้อนที่อยู่ภายในของระบบอินเทอร์เน็ตการประมวลผลแบบก้อนเมฆ เป็นรูปแบบของการประมวลผลที่ความสามารถในการทำงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสารสนเทศจะมีการจัดสรรในรูปแบบของบริการ (as a service) ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ จากระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องมีความรู้หรือความเชี่ยวชาญหรือมีความสามารถในการควบคุมโครงสร้างทางเทคโนโลยีที่ให้บริการแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งข้อมูลสารสนเทศจะถูกเก็บบันทึกบนเครื่องแม่ข่ายบนระบบอินเทอร์เน็ต และมีการสำรองไว้ชั่วคราวในรูปแบบของแคช (cache) บนเครื่องลูกข่ายซึ่งได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุค  อุปกรณ์พกพา โทรศัพท์มือถือ และอื่น ๆ

605px-Cloud_computing.svg

______จากคุณสมบัติในลักษณะนี้ ก็คล้ายกับการ outsourcing ทำให้บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีของ Cloud Computing ไม่จำเป็นต้องลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานของระบบสารสนเทศ โดยบริษัทผู้ใช้งานเป็นเพียงผู้เช่าใช้บริการ ซึ่งมีลักษณะการรับบริการที่เหมือนกับบริการสาธารณูปโภค การใช้งานดังกล่าวถูกเรียกว่า utility computing ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งการประมวลผลและโปรแกรมประยุกต์ได้แบ่งไปให้บริษัทอื่นดูแล ซึ่งก็รวมไปถึงระบบข้อมูลสารสนเทศด้วย ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงสูงที่ข้อมูลจะไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง

______หลักการของการประมวลผลแบบCloud Computingได้มีการรวบรวม เทคโนโลยีเด่น ๆ เข้าไว้ด้วย เช่น ซอฟต์แวร์ในรูปแบบของบริการ (Software as a Service (SaaS)) Web 2.0 และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งพาระบบอินเทอร์เน็ตในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น Google Apps จะให้บริการโปรแกรมประยุกต์ทั่ว ๆ ไปสำหรับการดำเนินธุรกิจแบบออนไลน์ซึ่งจะสามารถเข้าถึงได้ด้วยโปรแกรมเว็บบราวเซอร์อีกที โดยที่ข้อมูลและซอฟต์แวร์นั้นถูกเก็บอยู่บนเครื่องแม่ข่ายภายในระบบอินเทอร์เน็ต

______ซึ่งการบริการในลักษณะนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานจากที่ไหนก็ได้ ซึ่งเหมาะอย่างมากกับแนวโน้มความนิยมของเครื่องคอมพิวเตอร์ราคาประหยัดเช่น netbookที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน

______WebRTC ชื่อเต็มคือ Web Real-Time Communication เป็น javascript api ใหม่ที่สามารถทำให้คุยแบบเห็นหน้า ได้ยินเสียง และแชร์ไฟล์หากันแบบ P2P ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมเสริมใดๆ โดย Google ได้นำเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารแบบเรียลไทม์มาเป็น OpenSource Project ของโครงการ WebRTC ไปแล้ว ซึ่งโครงการ WebRTC คือการสร้าง API มาตรฐานสำหรับการดึงไมโครโฟนและเว็บแคมของคอมพิวเตอร์มาใช้งาน ทำให้เว็บสามารถดึงภาพและเสียงจากเครื่องแล้วส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ตามเวลาจริง ดังนั้นเราจึงสามารถสร้างห้องแชตวิดีโอโดยไม่ต้องการปลั๊กอินใดๆ เพิ่มเติม ต่างไปจากทุกวันนี้ที่ Google Talk, และ Hangout ของกูเกิล ยังคงต้องการปลั๊กอิน Google Talk แยกออกมาเพื่อทำงาน

WebRTCpic

______นอกจากทางนั้นทางโครงการยังทำงานร่วมกับผู้พัฒนาเบราว์เซอร์อย่าง Mozilla และ Opera ในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้ถูกใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ในขณะเดียวกันทางโครงการก็เข้าร่วมกับ IETF และ W3C ในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานของการติดต่อสื่อสารแบบเรียลไทม์อีกด้วย

______ต่อจากนี้เทคโนโลยีบนเว็บแอพพลิเคชั่น จะมีความสามารถทัดเทียม กับแอพพลิเคชั่นบน Desktop ได้มากขึ้น และนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

6.ให้อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล

http://krutuk.kkw2.ac.th/2012/?page_id=13

http://windows.microsoft.com/th-th/windows7/start-here-to-set-up-a-home-network-in-windows-7#TopOfPageTarget

http://www.docstoc.com/docs/40469817/Home-network-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3

http://www.mindphp.com/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD/73-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/2163-adsl-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html

http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0d409099dd20b30e

http://www.pacnet.com/th/what-is-ipv6/

http://thailocal.nso.go.th/nso-cms/chat/webboard/6-/62-qcloud-computingq-.html

https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=4&cad=rja&ved=0CFMQFjAD&url=http%3A%2F%2Fbls.buu.ac.th%2F~                       f52325%2FCloud_Computing%2Fcloud_homework%2F50036184%2FCloud%2520Computing.doc&ei= H3SIUqb6DsqTrgeDwIHoBg&usg=AFQjCNEHUtp41GhQeb2lP2jMgKDs566x_Q

http://blog.bossturteam.com/webrtc-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/

http://inetbangkok.in.th/?p=918

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0% B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7% E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C

ใส่ความเห็น